ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Chapter 1 : จุดเริ่มต้นและเรื่องราวตลอด 9 เดือน

จุดเริ่มต้นของเด็กชาย ขุนเขา ( Baby Khunkhao)

ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง 

     13 กุมภาพันธ์ 2564  เป็นวันแรกที่รู้ว่าชีวิตของแม่ไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป เรื่องราวดีๆ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันนี้ พ่อพาแม่ไปตรวจที่คลินิกหมอเพียวที่ตรัง หมอซาวด์ผ่านทางช่องคลอดตอนนั้นอายุครรภ์ 6 สัปดาห์ หัวใจของลูกเต้นแล้ว นาทีนั้นตื่นเต้นดีใจจนทำอะไรไม่ถูก แม่ได้แต่หัวเราะไปคุณหมอบอกว่าคุณแม่อย่าหัวเราะค่ะมันสั่น ฮ่าๆๆๆ  และเข้าไปบ้านปู่กับย่าเพื่อแจ้งข่าวดี  

6 weeks


    19 กุมภาพันธ์ 2564 แม่ได้ฝากครรภ์ที่หมอมัลลิกา ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณหมอนัดแม่ในทุกๆเดือนเพื่อตรวจติดตามพัฒานการของลูก

19 เมษายน 2564 เห็นเป็นเบบี๋แล้ว
อายุครรภ์ 15 weeks 4 day


18 พฤษภาคม 2564 คุณหมอซาวด์เพื่อดูเพศของหนู แท่นแทนแท๊นนนนน หนูเป็นเด็กผู้ชายครับ

ภาพแรกที่แม่ได้เห็นจู๋ของเด็กผู้ชายในท้อง



อายุครรภ์ 20 weeks ( 5 เดือน )

    18 มิถุนายน 2564 ตั้งใจจะซาวด์ 4D แต่มองไม่เห็น และคุณหมอบอกว่า 2D ก็เพียงพอแล้ว ทำให้แม่ได้เห็นหน้าหนูครั้งแรก ตอนอายุครรภ์ 6 เดือน หน้าตาก็ประมาณนี้ เวลาไปหาหมอหนูจะนอนนิ่งๆตลอด อาจเป็นเพราะแม่มักจะขับรถเยอะก่อนไปหาหมอ หนูคงง่วงนอนแน่ๆ  ตอนนี้สัมผัสได้อย่างชัดเจนในการเคลื่อนไหวร่างกายของหนู หนูดิ้นแรงขึ้น แต่ยังมีบางครั้งที่เงียบไปแม่ก็ได้แต่กลัวว่าหนูจะเป็นอะไรไปรึเปล่า สุดท้ายหนูแค่นอนหลับ ฮ่าๆ

อายุครรภ์ 24 weeks 
น้ำหนัก  720 g.


19 กรกฏาคม 2564 แม่ก็ยังคงไปตามหมอนัดอย่างสมำเสมอ อาการปวดเมื่อยเริ่มมากขึ้นเพราะท้องเริ่มโตขึ้นทุกๆวัน แม่นอนไม่สะดวกเลยช่วงนี้เพราะน้ำหนักที่เพิมขึ้นทำให้เดินยาก นอนก็ยากด้วย แต่ไม่เป็นไร แม่อดทนได้เสมอ :) และยังคงทำงานในทุกๆ วัน ( 28 weeks +5Day)

เห็นแก้มอ้วนๆของหนูแล้วนะ :) 
นำหนัก  1725 g.


รูปนี้ตอน 29 weeks 4Day
คุณหมอบอกว่าห้ามน้ำหนักขึ้นแล้วนะคะคุณแม่ 


    2 สิงหาคม 2564  ตอนนี้อายุครรภ์ 30 weeks + 5day น้ำหนักของหนู 2250 g. แล้วแม่เพิ่งรู้ว่าหนูค่อนข้างตัวใหญ่กว่าปกติเมื่อเทียบกับตารางเกณฑ์ทั่วไป แต่คุณหมอบอกว่าขึ้นอยู่กับสรีระของแม่ด้วย เลยไม่ได้กังวลเท่าไหร่ คุณหมอเริ่มให้แม่ไปตรวจครรภ์ จาก 1 เดือนเป็น 2 อาทิตย์ครั้งแล้วนะ เพราะหนูจะโตเร็วมากในช่วงนี้ 


    30 สิงหาคม 2564 อายุครรภ์ 34 weeks + 5 day น้ำหนักของหนู 2700 g. แม่เริ่มทำงานและเดินทางน้อยลงแล้ว ปวดขามากๆ แต่ก็ต้องอดทน ตอนนี้หนูตัวโตขึ้นจนในบางครั้งทำให้แม่กินอะไรเข้าไปแล้วเริ่มเป็นกรดไหลย้อน  ทรมานเจ็บแสบร้อนไปคอไปหมด แต่สุดท้ายแม่ก็ผ่านมาได้เสมอ :)  หนูดิ้นแรงมากๆ และตัวโตขึ้นมากๆ เลยครับ


    13 กันยายน 2564 อายุครรภ์ 36 weeks +5 day  น้ำนหนักหนูเยอะจนแม่ตกใจ ตอนนี้ 3400 g.แล้ว หนูพร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกแล้วนะ ดูท้องแม่สิจะแตกแล้ว ทุกครั้งที่ไปซาวด์คุณหมอจะไม่ค่อยให้เห็นหน้าชัดๆ แต่ที่เห็นชัดคือจู่ แม่ก็โม้ทุกคนแหละว่าหนูไม่เล็ก  และแม่ก็เตรียมของพร้อมไว้สำหรับหนูเรียบร้อยแล้ว รอแค่หนูออกมาเท่านั้นเอง

ชัดเจนเลยครับ


เด็กทำให้แม่เคลื่อนไหวตัวลำบากและเดินเหมือนนกเพนกวิน



    20 กันยายน 2564  อายุครรภ์ 37 weeks+ 5day คุณหมอซาวด์ครั้งนี้เพื่อตัดสินใจว่าจะให้คลอดเองหรือผ่า แม่ตั้งใจจะคลอดเองเพราะอยากรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดที่เค้าบอกกันว่ามันทรมานมากๆ แต่สุดท้ายน้ำหนักของหนู  3880 g. ทำให้แม่ไม่สามารถคลอดเองได้เพราะหมอกลัวว่าจะติดไหล่และคลอดไม่ออก สุดท้ายก็นัดวันผ่า เป็นวันที่  27 กันยายน 2564   สิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนาน 



ขอบคุณสำหรับช่วงเวลา 9 เดือนที่ทำให้แม่ได้ฝีกความอดทนและเปลี่ยนแปลงตัวอย่างในหลายๆอย่างเพื่อจะเป็นแม่ของเด็กชายขุนเขา แล้วเจอกันครับ  







    




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Chapter 4 : Xmas & 3 month old

🎄  Merry   Christmas & Happy  new year & 3 month old  🎄 สวัสดีคริสมาสแรกของลูกนะครับ วันนี้มาในชุดหล่อ ซานตาคลอส 🎅 สีแดงของน้าอง แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เปลที่ได้รับมรดกตกทอดมาขาดในขณะที่ลูกกำลังอยู่ในเปล โชคดีที่แม่รองหมอนที่ค่อยข้างหน้าและแข็งแรงทำให้ตัวของลูกไม่กระแทกพื้น แม่กำลังอาบน้ำอยู่และตกใจเสียงป้าเป้เลยวิ่งออกมาจากห้องน้ำ แม่ตกใจมากและกลัวมาก เลยร้องไห้ไปยกใหญ่ ลูกคือดวงใจของแม่ ถ้าเกิดอะไรกับลูกแม่ต้องโทษตัวเองแน่ๆ   ตอนนี้กำลังเลือกเปลให้ลูก เอาใหม่เอี่ยมเลยคับ 🥰 เพื่อน้องขุนเขาแม่ยอมทุกอย่าง  รักลูกที่สุดเลยนะ  

~เล่า~

~เล่า~ พูดถึงน้องขุนเขาวัย 9 เดือน กับการเป็นผู้ร่วมโต๊ะอาหารนอกสถานที่ ถือว่าลูกทำได้ดีเลยทีเดียว แม่ยังเชื่อเสมอว่าเราฝึกกันได้ และทีมเราก็พาลูกไปฝึกนอกสถานที่กันบ่อย แต่อุปกรณ์ต้องพร้อม ของเล่น นิทาน และขนม ข้าว ห้ามหิว ห้ามเพิสแฉะ ยกเว้นเหตุการไม่คิดคืออึ 5555 แต่ก็ไม่เป็นปัญหา พ่อแม่ชำนาญมากแล้ว ณ ตอนนี้  “บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นและชาบู” ลูกนั่งกับที่ได้นานและเอ็นจอยกับการทานร่วมโต๊ะกันมากๆ เราทานไปพร้อมกันได้แต่ลูกก็จะมีลิมิตเวลาที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ พ่อกับแม่เลยต้องสลับกันพาออกไปเดินชมนกชมไม้กันบ้าง แต่ไม่มีร้องงอแงเลย ขอบคุณมากๆคับ ไว้เราไปกันบ่อยๆ นะคับ 😊  โตกว่านี้ค่อยออกไป ตจว เนอะ แค่ไปบ้านย่าบ้านปู่แต่ละรอบแม่ก็หอบแล้วคับ  ❤️💙❤️